การปลดปล่อยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ...

การปลดปล่อยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ...

เมื่อพรรณนาถึงพระเยซูผู้เขียนชาวฮีบรูกล่าวต่อไป - “ ในขณะที่เด็ก ๆ ได้รับส่วนของเนื้อหนังและเลือดพระองค์เองก็มีส่วนร่วมเช่นเดียวกันว่าด้วยความตายพระองค์จะทรงทำลายผู้ที่มีอำนาจแห่งความตายนั่นคือปีศาจและปลดปล่อยผู้ที่กลัวความตายได้ ตลอดชีวิตของพวกเขาอยู่ภายใต้พันธนาการ เพราะว่าพระองค์ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือแก่ทูตสวรรค์ แต่พระองค์ทรงให้ความช่วยเหลือแก่เชื้อสายของอับราฮัม ดังนั้นพระองค์จะต้องถูกทำให้เหมือนพี่น้องของพระองค์ในทุกสิ่งเพื่อพระองค์จะทรงเป็นมหาปุโรหิตผู้เปี่ยมด้วยความเมตตาและซื่อสัตย์ในสิ่งที่เกี่ยวข้องกับพระเจ้าเพื่อทำการขับไล่บาปของประชาชน เพราะพระองค์เองได้รับความทุกข์ทรมานถูกทดลองพระองค์สามารถช่วยเหลือผู้ที่ถูกล่อลวงได้” (ฮีบรู 2: 14-18)

พระเจ้าซึ่งเป็นวิญญาณต้อง 'คลุม' ตัวเองด้วยเนื้อหนังและเข้าสู่สิ่งสร้างที่ล่มสลายของพระองค์เพื่อช่วยเหลือเรา

ด้วยการสิ้นพระชนม์พระเยซูทรงทำลายอำนาจแห่งความตายของซาตานเหนือมนุษยชาติ  

เมื่อเขียนเกี่ยวกับการกลับเป็นขึ้นจากตายเปาโลเตือนชาวโครินธ์ “ เพราะว่าฉันได้มอบสิ่งที่ฉันได้รับให้คุณก่อนด้วยนั่นคือพระคริสต์สิ้นพระชนม์เพราะบาปของเราตามพระคัมภีร์และพระองค์ถูกฝังไว้และพระองค์ทรงฟื้นขึ้นมาอีกในวันที่สามตามพระคัมภีร์และพระองค์ก็ทรงเห็น โดย Cephas จากนั้นโดยสิบสอง หลังจากนั้นพี่น้องกว่าห้าร้อยคนก็เห็นพระองค์พร้อมกันซึ่งส่วนใหญ่ยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน แต่บางคนก็หลับไป หลังจากนั้นยากอบก็เห็นพระองค์แล้วบรรดาอัครสาวก” (1 โครินธ์ 15: 3-7)

เราทุกคนเกิดมาภายใต้โทษประหารทั้งทางวิญญาณและทางร่างกาย เราถูกแยกออกจากพระเจ้าทั้งทางวิญญาณและทางร่างกายจนกว่าเราจะยอมรับการชำระของพระคริสต์เพื่อเรา หากเราเกิดจากพระวิญญาณของพระองค์โดยความเชื่อในสิ่งที่พระองค์ทรงทำเพื่อเราเราจะกลับมารวมกันอีกครั้งทางวิญญาณกับพระองค์และเมื่อเราตายเราจะกลับมารวมตัวกับพระองค์อีกครั้งทางร่างกาย เปาโลสอนชาวโรมัน - “ รู้เรื่องนี้ว่าชายชราของเราถูกตรึงไว้กับพระองค์เพื่อร่างกายของบาปจะถูกกำจัดไปด้วยเพื่อเราจะไม่เป็นทาสของบาปอีกต่อไป เพราะว่าผู้ที่ตายแล้วก็พ้นจากบาป ตอนนี้ถ้าเราตายกับพระคริสต์เราเชื่อว่าเราจะมีชีวิตอยู่กับพระองค์ด้วยโดยรู้ว่าพระคริสต์ที่ได้รับการฟื้นคืนชีพจากความตายแล้วก็จะไม่มีอีกแล้ว ความตายไม่มีอำนาจเหนือพระองค์อีกต่อไป สำหรับความตายที่พระองค์สิ้นพระชนม์พระองค์ก็ทรงทำบาปทุกครั้ง แต่ชีวิตที่เขามีชีวิตอยู่เขามีชีวิตอยู่เพื่อพระเจ้า” (ชาวโรมัน 6: 6-10)

พระเยซูทรงเป็นมหาปุโรหิตที่เมตตาและซื่อสัตย์ พระองค์ทรงจ่ายราคาสำหรับการไถ่บาปที่สมบูรณ์ของเราและสิ่งที่พระองค์ทรงประสบบนโลกทำให้พระองค์สามารถเข้าใจสิ่งที่เราต้องเผชิญในชีวิตได้อย่างชัดเจนรวมถึงการทดลองและการล่อลวงทั้งหมดที่เราเผชิญ

พระวจนะของพระเจ้าเปิดเผยว่าพระเจ้าคือใครและเราเป็นใคร ฮีบรู 4: 12-16 สอนเรา - “ เพราะว่าพระวจนะของพระเจ้านั้นมีชีวิตและทรงพลังและคมยิ่งกว่าดาบสองคมใด ๆ แทงทะลุถึงส่วนของจิตวิญญาณและวิญญาณและข้อต่อและไขกระดูกและเป็นผู้เข้าใจความคิดและเจตนาของหัวใจ และไม่มีสิ่งมีชีวิตใดแอบแฝงจากสายพระเนตรของพระองค์ แต่ทุกสิ่งล้วนเปลือยเปล่าและเปิดเผยต่อสายตาของพระองค์ซึ่งเราต้องให้ความเห็น เมื่อเห็นแล้วว่าเรามีมหาปุโรหิตผู้ยิ่งใหญ่ผู้ได้ผ่านสวรรค์คือพระเยซูพระบุตรของพระเจ้าให้เราอดกลั้นคำสารภาพของเราไว้ สำหรับเราไม่มีมหาปุโรหิตที่ไม่สามารถเห็นอกเห็นใจในความอ่อนแอของเรา แต่อยู่ในทุกจุดที่ถูกล่อลวงเช่นเดียวกับเรา แต่ไม่มีบาป เหตุฉะนั้นให้เรามาอย่างกล้าหาญที่บัลลังก์แห่งพระคุณเพื่อเราจะได้รับความเมตตาและพบพระคุณที่จะช่วยในยามจำเป็น”

หากเรายอมรับสิ่งที่พระเยซูทรงทำเพื่อเราเราสามารถเข้าใกล้บัลลังก์แห่งพระคุณสถานที่แห่งความเมตตาแทนที่จะเป็นบัลลังก์แห่งการพิพากษา